Top note: Lime, Mandarin, Grapefruit, Bergamot, Orange.
Mid note : Basil, White Thyme, Lilac, Orris.
Base note : Patchouli, Vetiver, Costus Oil.

Lime Basil & Mandarin : กลิ่นหอมล้ำสมัยสุดคลาสสิคของผลมะนาวฝานสดและส้มแมนดาริน ที่ให้ความรู้สึกสดชื่นกระปรี่กระเปร่า

กลิ่นเปิดจะเป็นกลิ่นซีทรัสอย่ามะนาวสดๆ ทำให้สดชื่นขึ้นทันทีแทรกมากับกลิ่นของใบ Basil ดูสะอาดๆโล่งดีจริง

กลิ่นนี้เป็นกลิ่นที่เราชอบมากอีกกลิ่น มันเป็นกลิ่นที่หรูหราในความคิดเรา เป็นกลิ่นของคนรวยๆอะ บอกไม่ถูกโนทแรกบางคนอาจจะดมแล้ววางแต่ถ้ารอสักพักเชื่อว่าไม่ยากที่จะชอบเพราะ เบสโนทหอมสุดๆ เป็นกลิ่นที่ฉีดได้เรื่อยๆไม่เบื่อเลยจริงๆ มีเพื่อนคนนึงที่ตอนแรกไม่ชอบเลยที่ได้ลองแถมยังบอกว่ากลิ่นยังกับยาฆ่าแมลง แต่ตอนนี้ปลาบปลื้มชนิดที่ว่าให้ลองเปลี่ยนกลิ่นก็ไม่เปลี่ยน ในกลุ่มซีทรัสเราว่าเราชอบกลิ่นนี้มากที่สุดแล้วทนด้วยนะ

Verbenas Of Provence

Inspired by the citrus-scented ambience of a restaurant in Hong Kong, Verbenas of Provence is a fresh, clean fragrance. Blended from the leaves of vervaine citronelle and undercut with hints of flowers and spice, it is summer in a bottle

Top note : Bergamot, Lemon, Orange, Grapefruit, Verbena, Mandarin.
Mid note : Lilly of the valley, Jasmine, Gardenia.
Base note : Cedarwood, Musk, Cypress.

Verbenas of Provence : กลิ่นหอมสะอาดให้ความรู้สึกสดชื่นจากตะไคร้หอม ดอกไม้หลากชนิด และเครื่องหอม

นับว่าเป็นกลิ่นที่เราใช้น้อยอีกกลิ่นนึง เพราะว่าอาจจะมีกลิ่นอื่นที่เราใช้แล้วชอบกว่า ไม่ใช่ว่าไม่หอมแต่มันไม่โดนใจเรา กลิ่นจะสะอาดยังกับเข้าสปาแต่งานหลักๆของมันที่เราใช้คือวันที่เราจะฉีด Redroses มันจะทำให้กลิ่นกุหลาบของเราพุ่งทะยานฟุ้งแบบว่ารอบกายเรากลายเป็นปากคลองตลาดเชียว กลิ่นมันไปอัพกุหลาบเราไม่ให้แห้งจนเกินไปในเบสโนท สรุปว่าใช้ไม่บ่อยเท่ากลิ่นอื่นแต่ถ้าใครชอบอารมณ์สปาจัดๆก็ จัดไปอย่าให้เสีย

อันนี้เป็นกลิ่นที่ซ่าๆ เป็นกลิ่นใบเวอบีนา ลอคซิทานบอกว่ากลิ่นนี้เป็นกลิ่นของใบไม้แห่งความสุข มักใช้ในพิธีกรรมที่เรียกความสุข หรือเป็นใบไม้ที่พวกแม่มดชอบนำมาใช้อะไรแบบนั้นแหละ

กลิ่นมันสดชื่นๆ หายใจโล่งๆ แต่บางคนบอกว่ากลิ่นเปรี้ยวแปลกๆ อันนี้แล้วแต่คนชอบ แต่เพื่อนเราบอกว่าเป็นกลิ่นใบแมงลักที่กินกับขนมจีน ดูมันพูดสิ เสียหายหมดกัน เราเลยไปกินขนมจีน แล้วขยี้ใบแมงลักดู แอรั๊ยยยยยยยยยยยย ใช่เลย ฮ่าๆ ไฮโซกินขนมจีนแกล้มใบเวอบีน่า ฮ่าๆ

Grapefruit

Instantly awakening the senses, Grapefruit is a lively, uplifting citrus with a spicy heart. Grapefruit and tangerine are combined with vetiver and rosemary to create this outspoken citrus that seamlessly journeys from morning tennis to business lunch and on to evening cocktails

Top note : Grapefruit, Tangerine.
Mid note : Rosemary, Peppermint, Pimento, Jasmine.
Base note : Vetiver, Patchouli, Tree Moss.

Grapefruit : กลิ่นหอมของผลเกรปฟรุ๊ตและส้มแทงเจอรีนคละเคล้าหญ้า Vetyver เป็นกลิ่นหอมแนวซีทรัสสดชื่นมีชีวิตชีวา
กลิ่นซีทรัสเบสิคๆที่ใครชอบแนวสปอร์ตก็อย่าพลาดนะ เราว่ามันเป็นตัวทำให้สดชื่นเป็นอันดับต้นๆเลย แต่ข้อเสียของมันคือกลิ่นจะจางไวมากอันเป็นปกติของกลิ่นในกลุ่มซีทรัส ดังนั้นเรามักใช้ร่วมกับการคอมไบน์กลิ่นเพื่อสร้างรายละเอียดของกลิ่น หรือบางครั้งก็ออนทอปกลิ่นหนักๆให้มันอ่อนลง แฟนเราบอกว่ากลิ่นยังกับแอมโมเนีย ป๊าดด ขอเอาเกรฟฟรุตฉีดปากหน่อย

กลิ่นนี้จะใสๆ สดชื่นคล้ายกับกลิ่นตระกูลน้ำหอมของ Hermes ชอบคอมไบน์กลิ่นนี้กับ Vanilla & Anise และ lime Basil & Mandarin มากๆ ยิ่งวันไหนไม่เฟรชเจอ Grapefruit + Lime Basil & Mandarin เข้าไปสดชื่นสดใสขึ้นมาเป็นกองเชียวแหละขอบอก ปลื้ม

กลิ่นเกรฟฟรุต เป็นกลิ่นแนวๆซ่าๆ สดชื่นเราว่าเหมาะกับการใช้ฉีดออนทอปตัวอื่นเพื่อให้สดชื่นขึ้นนะ ลำพังตัวเกรฟฟรุตเองเราว่าไม่ค่อยจะทนเท่าไหร่เลยแต่ถ้าลองไปออนทอปกลิ่นอื่นมันจะชัดขึ้น กลิ่นนี้ถ้าคนจะซื้อโจ มาโลนเพือนฉีดให้ติดทนเราว่า อย่าเลย แต่ถ้าจะฉีดเพือรับความสดชื่นตอนแรกเราแนะนำ เพราะว่าสดชื่นมาก กลิ่นเหมือนพวกเปลือกส้ม ส้มโอ ซ่าๆ สังเกตุว่ามีขวดเล็กด้วยเพราะว่าเราชอบพกออกไปนอกบ้านไว้ฉีดเพิ่มระหว่างวันเพื่อความสดชื่น

Pomegranate Noir

Inspired by a red silk dress, the very essence of Parisian chic and the intriguing character of pomegranate, Pomegranate Noir combines the sweet fruity notes of raspberry, plum, pink pepper and pomegranate with Patchouli, frankincense and spicy woods to create a scent that’s incredibly sexy, totally sophisticated and utterly compelling.

Top note : Pomegranate, Rasberry, Plum, Rhubarb, Watermelon.
Mid note : Jasmine, Lilly, Pink Pepper, Clove, Frankincense, Opopanax.
Base note : Patchouli, Cedarwood, Musk, Guaiacwood, Amber.

Pomegranate Noir : กลิ่นหอมสะกดใจที่ชวนให้เคลิบเคลิ้มจากผลทับทิมสีแดงสดฉ่ำ ราสเบอร์รี่ และลูกพลัมหอมหวาน

กลิ่นปอม แทบจะเป็นกลิ่นสุดท้ายที่เราซื้อเลยก่อนที่ตัวใหม่อย่าง อิงลิชแพร์จะเข้ามา ด้วยความที่ดมตอนแรกแล้วแบบว่ากลิ่นดูแปลกๆ น่าจะเป็นสไปซี่ซะมากกว่าแต่ตอนนี้กลายเป็นหนึ่งใน

กลิ่นโปรดของเรามากๆ ฉีดบ่อยสุดๆ ยิ่งคอมไบน์กับ Lime Basil & Mandarin เราชอบจริงๆแต่คนอื่นอาจจะไม่ชอบก็ได้ เพราะไอ้ความที่กลิ่นกลางจะมีกลิ่นของเครื่อง

เทศชัดมากๆเลยแทบจะคิดว่าไม่น่าจะเป็นกลิ่นฟรุตตี้เลย แต่เราชอบ Pomegranate Noir+ Sweet Lime & Cedar มากสุดแล้วถ้าจะคอมไบน์เพราะใช้ทีไร

งานเข้าตลอดไม่ต้องสืบเลย คิคิ คิดดูว่าลงทุนสอยมาสองขวดไว้พกพาเลยนะสำหรับกลิ่นนี้

English Pear & Freesia

The essence of Autumn, English Pear & Freesia is an evocative fragrance that captures the scent of just-ripe pears, cooled by the air, ready to twist free from the tree. The surprising, sensuous freshness of sweet pears is wrapped in a bouquet of white freesias, on a subtle background of scrambling wild roses and skin-warming amber, patchouli and woods.

Top Note: Pear, Orange Blossom, Bergamot
Heart Note: Wild Rose, Freesia, Quince, Rhubarb
Base Note: Amber, Patchouli, Musk, Cedarwood, Sandlewood

English Pear & Freesia : ความหอมที่แสดงถึงการเดินทางของฤดูร้อนพาดผ่านเข้าสู่วันใหม่ ที่เต็มไปด้วยความสดชื่นของฤดูใบไม้ร่วง กับอากาศอันแสนบริสุทธิ์ กับความตื่นตาตื่นใจเป็นครั้งแรกที่มีผลลูกแพร์สุกงอม เป็นดั่งหัวใจของการสร้างสรรค์ English Pear & Freesia โคโลญจน์ที่ถ่ายทอดมุมมอง ภูมิทัศน์ธรรมชาติ ฤดูกาลอันแสนมีเอกลักษณ์ ตัวตนและจิตวิญญาณของความเป็นอังกฤษออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ความหอมอันสดฉ่ำที่ได้แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์จากบทกลอนแสนโรแมนติค ที่ชื่อว่า "To Autumn" บทกวีสั้นที่ได้การขนานนามว่าเป็นหนึ่งในบทกลอนสั้นที่ประณีต และสมบูรณ์ที่สุดในประวัติศาสตร์ของวรรณกรรมอังกฤษ ที่แต่งโดยกวีชาวอังกฤษ

Keat's ode ความหอมที่แสดงถึงนาทีแห่งความประทับใจของฤดูกาล เมื่อวันสุดท้ายของฤดูร้อนพาดผ่านเข้าสู่วันใหม่ ที่เต็มไปด้วยความสดชื่น ชุ่มฉ่ำของฤดูใบไม้ร่วงกับอากาศแสนบริสุทธิ์ ผลไม้ที่กำลังสุกงอมหอมหวานกำลังได้ที่..
The Fragrance สัมผัสกลิ่นหอมสดชื่นตัวแทนของฤดูใบไม้ร่วงจากโจ มาโลนคอลเลคชั่น English Pear & Freesia ถ่ายทอดความหอมละมุนของผลแพร์ที่สุกงอมกำลังดี ผลิดอกออกผลอย่างพร้อมพรั่งอุดมสมบูรณ์ในสวนผลไม้แห่งชนบทของประเทศอังฤกษ

Nectarine Blossom & Honey

Fruity Family. เป็นกลิ่นฟรุตตี้ที่หอมมากเข้าถึงได้ไม่ยาก ใครอยากจะลองใช้โจ มาโลน แนะนำให้เริ่มที่กลิ่นฟรุตตี้ก่อนจะดีกว่า

A youthful and fruity fragrance which was inspired by the delicious scent of just-ripening nectarines and a taste of refreshing peach sorbet. Mouth-watering nectarine and peach with hints of plum, blackcurrant and vetiver are combined with the sweet warmth of acacia honey in this truly seductive combination.

Top note : Blackcurrent, Cedrat Leaf, Clementine Flower.
Mid note : Nectarine, Acacia Honey, Plum.
Base note : Coconut, Vetiver, Peach, Sandalwood.

Nectarine Blossom & Honey : กลิ่นหอมอ่อนหวานละมุนของลูกพีช ลูกพลัม และแบล็คเคอร์เร้นท์ พร้อมกลิ่นหอมเย้ายวนชวนลิ้มลองของน้ำผึ้งป่าธรรมชาติ

กลิ่นนี้เปิดมาก็ อู้วว ว้าว เลย แหมๆมันเก๋จริงอะไรจริงเป็นกลิ่นพีชที่พิเศษกว่าพีชแบนด์อื่นๆ รู้สึกได้ทันทีว่ามันเป็นพีชที่มีความสดและฉ่ำมากๆ ไม่แปลกที่มันเป็นกลิ่นที่ขายดีที่สุดเพราะว่า ความหอมของมันนี่เอง ที่สำคัญกลิ่นนี้ทนมากมาย ทนจริงๆชนิดข้ามวันข้ามคืนไปเลย ฉีดหนักไปอาจจะเมาและมึนเอาได้ง่ายๆ กลิ่นนี้คอมไบน์กับกลิ่น Orange Blossom หอมมากๆ เลยอะ

Blackberry & Bay

เป็นกลิ่นที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความทรงจำวัยเยาว์อันไร้เดียวสา เมื่อยามโลกแล่นในท้องไร่แบล็อคเบอรี่ เด็ดดม เก็บเกี่ยว เชยชิม กับริมฝีปากและมือที่เปื้อนชื้นไปด้วยน้ำแบล็อคเบอรี่กลิ่นหอมแหลม และใบกระวานสด...

กลิ่นแรกให้ความรู้สึกที่เปรี้ยวแหลมของผลแบล็อคเบอรี่และเกรพฟรุ๊ตผสานกับกลิ่นใบกระวานสด เพิ่มละมุน ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นกลิ่นอ่อนนุ่มของมวลดอกไม้ จบลงด้วยการขับกล่อมจิตใจให้สงบนิ่งด้วยแฝกหอมและซีดาร์วู๊ด

Blackberry & Bay ไม่ใช่กลิ่นหวานจัด หรือ พันช์ผลไม้แบบเด็ก ๆ แต่เป็นกลิ่นที่บริสุทธิ์และเรียบง่ายกว่านั้น ในขณะเดียวกันก็รู้สึกว่ามันพิเศษ หากมีโอกาสได้ลองลิ้มรสของผลแบล็อคเบอรี่สดพร้อมบดบี้ใบกระวานสดในมือ นั่นแหล่ะ คือกลิ่นของ Blackberry & Bay

Wild Bluebell

Creator of the perfume is Christine Nagel who presented a new version of bluebell, composed of various notes, including green fresh notes, flowers (lily of the valley, rose hip) and spicy chord of cloves. Bluebell is a wild forest flower and its scent provides a moist echo of summer forest. English bluebell is an endangered species, Jo Malone gave a donation to Woodland Trust. Genuine bluebell does not take part in the composition, but its recreation composed of various notes.

Top notes: bluebell and cloves
Heart: lily of the valley, jasmine, rose hip
Base: white amber and musk

French Lime Blossom

Light Floral Family. เป็นกลิ่นฟลอรัลอ่อนๆ หอมไม่ฉุนจนเวียนหัวเป็นที่น่าปลาบปลื้มยิ่งนัก

Inspired by a stroll along the Champs Elys?es, French Lime Blossom is a romantic, full-bodied floral. The scent of sweet lime blossoms with a twist of bergamot and tarragon isevocative of the first day of spring

Top note :Lemon, Bergamot, Orange, Linden Blossom.
Mid note : Lilly of the valley, Rose, Cyclemen, Orange Flower, Tarragon.
Base note : Musk, Lilac, Carnation.

French Lime Blossom : กลิ่นหอมที่เต็มไปด้วยความรู้สึกอิสระเสรีอย่างน่าหลงใหล ด้วยกลิ่นหวานหอมชื่นฉ่ำใจของเบอร์กามอทและทาร์รากอน เป็นอีกกลิ่นที่เราแทบไม่ได้ใช้ ไม่ใช่ไม่ชอบแต่เพราะโดนแฟนแย่งไปใช้ฉีดตลอด แล้วเราก็ไม่อยากใช้กลิ่นซ้ำกับเค้าด้วยทำให้มีโอกาสใช้น้อยมากเลย ฮ่าๆ กลิ่นดอกมะนาวเปรี้ยวๆชัดดี และเป็นกลิ่นฟลอรัลที่จะเป็นกลิ่นแป้งที่สุดในบรรดาน้ำหอมของโจ มาโลน จะเป็นกลิ่นพาวเดอรี่ฟลอรัลแต่เปิดด้วยซีทรัสตามสไตล์เพื่อให้เกิดความสดชื่น เราจับแฟนฉีดกลิ่นนี้ด้วยการคอมไบน์คู่กับ Wild Fig & Cassis แล้วกลิ่นที่ได้ เก๋กู๊ดสุดๆ น่ารักที่สุดแฟนใครเนี๊ยะ

White Jasmine & Mint

This enchanting essence, inspired by a sun-drenched morning in an English country garden, perfectly captures the scent of jasmine, lily, orange flower and wild rose on the morning breeze. An unexpected twist of soft and sensual wild mint stimulates the senses and teases the palette in this elegant and eccentric fragrance

Top note : Heirloom Jasmine, Lilly of the Valley, Orange flower, Rose de mai.
Mid note : Mint, Chamomile, Cardamom, Corainder, Cassis.
Base note : Cedarwood, Vetiver, Mate, Musk.

White Jasmine & Mint : กลิ่นหอมแสนผ่อนคลายและให้ความรู้สึกที่สดชื่นมีชีวิตชีวาจากอกมะลิขาวสด และใบมินต์

กลิ่นสะอาดๆราวกับอากาศบริสุทธิ์ตอนเช้า ใครไม่ชอบกลิ่นน้ำหอมแรงๆแนะนำเลยจ้ากับกลิ่นนี้ กลิ่นเปิดด้วยใบมินต์และแทรกมาด้วยกลิ่นมะลิ เข้ากันดี๊ดียิ่งเอาไปคอมไบน์คู่กับ Orange Blossom รอบตัวคุณจะมีแต่ออร่าของอากาศบริสุทธิ์เพราะกลิ่นนี้จะเป็นกลิ่นแนวสะอาดสดชื่นใสๆ จนบางทีคุณอาจจะเพลินคิดไปว่าบรรยากาศรอบตัวเป็นรีสอร์ทไปเลยเชียวแหละ

Red Roses

Composed of seven types of roses from around the world, Red Roses is a surprisingly clean, voluptuous scent. With a heart of crushed violet leaves and hints of lemon, it unfolds like a bouquet of fresh-cut flowers

Top note : Lemon, Spearmint, Viole Leaf.
Mid note : Scarlet Velvet, Benjamin Britten, Rouge Royal, Don Juan, Song of Praise,

Hansa, Deep Secret.
Base note : Honeycomb, Clove, Musk, Sandlewood.

Red Roses : กลิ่นหอมสุดแสนโรแมนติกด้วยการผสมผสานกลิ่นหอมของกุหลาบล้ำค่ากว่า7 ชนิด คละเคล้ากับส่วนผสมของ ไวโอแลต เลมอน และสเปียร์มินต์

กลิ่นดอกกุหลาบที่มันเป็นกุหลาบสดๆที่คุณจะได้กลิ่นตั้งแต่ต้นจนจบ กลายเป็นกุหลาบแห้งไปเลย ถือว่าเป็นกุหลาบที่ดีตัวนึงเพราะว่าใครที่ชอบกลิ่นกุหลาบต้องชอบแน่ๆ ไม่ใช่กุหลาบไก่กาอาราเร่ด้วยนะ ที่ดมแล้วเป็นกลิ่นสังเคราะห์คือถ้าได้สัมผัสกับน้ำหอมโจ มาโลนจริงๆคุณจะรู้ว่ากลิ่นแนวธรรมชาติใสๆ ไม่ใช่สังเคราะห์เป็นไง เคยไปเดินซื้อของบิ๊กซีแล้วมีคนทักว่าใช้น้ำหอมอะไร เพราะเค้าชอบกลิ่นกุหลาบมากๆ แล้วได้กลิ่นแล้วมันต่างจากกุหลาบแบรนด์อื่นๆเลย ยืดอกหันไปบอกเลยว่า โจ มาโลน ที่จริงเราเป็นคนชอบกลิ่นกุหลาบมากๆนะแนะนำ Paul Smith Rose ก็เป็นอีกตัวที่เราชื่นชอบ

Orange Blossom

Floral Family. กลิ่นของพวกดอกไม้ต่างๆนะครับที่ถูกนำมาเป็นส่วนประกอบในการปรุงน้ำหอมเป็นหลัก

Inspired by a stay at a hotel in Bel Air, Orange Blossom is pure delight. The scent of clementine leaves in the morning dew sparkles above a heart of orange blossom and water lily, transporting the wearer to a garden oasis.

Top note : cedrat Leaf, Clementine Flower, Lemongrass.
Mid note : Orange Flower, Water lilly, Lilac, Lilly of the Valley.
Base note : Oakmoss, Vetiver, Orris.

Orange Blossom : กลิ่นหอมบางเบาละมุนละไมจากดอกไม้หอมหวานและใบ Clementine กับดอกบัวที่ผสมผสานได้อย่างลงตัวให้ความรู้สึกสดใสเบิกบาน
นี่ก็เป็นกลิ่นโปรดของเรา ถ้าต้องเลือกทอปเท็นขอเลือกเป็นตัวต้นๆของกลิ่นเลย กลิ่นดอกส้มห๊อมหอม สะอาดจริงอะไรจริงที่สำคัญเป็นอีกกลิ่นที่ออนทอปกลิ่นไหนก็หอม ฉีดเดี่ยวลำพังเค้าก็ไม่ขี้เหร่ถือว่าเป็นกลิ่นที่ฉีดได้เรื่อยๆ นอกเสียจากว่าคุณจะไม่ชอบกลิ่นส้มก็เท่านั้น กลิ่นนี้น้องสาวซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด หุหุ กลิ่นนี้มันเป็นอีกกลิ่นที่เป็นกลิ่นสามัญประจำตู้ไปเสียแล้ว

Vintage Gardenia

Created to celebrate 10 years of the Jo Malone brand and Jo's personal journey, Vintage Gardenia with Cardamom & Myrrh is a completely captivating, rich seduction of the senses. Classic florals, gardenia and tuberose, are intricately laced with cardamom, sandalwood, incense and myrrh.

Top note : Cassis, Blackberry, Hyacinth, Fig.
Mid note : Gardenia, Tuberose, Carnation, Cardamom.
Base note : Myrrh, Incense, Sandlewood, Vetiver.

Vintage Gardenia with Cardamom & Myrrh: กลิ่นหอมที่เต็มไปด้วยความหรูหราและคลาสสิคจากดอกการ์ดิเนีย ซึ่งบ่งบอกถึงเสน่ห์ของหญิงสาวได้อย่างชัดเจน กลิ่นนีเป็นกลิ่นสไตล์ อินเทนส์เลย เป็นกลิ่นดอกพุดมั๊งกลิ่นมันประมาณนั้น ช่วงเบสจะมีกลิ่นของเมอร์ซึ่งเป็นยางไม้ชนิดนึงที่ทำให้กลิ่นติดทนนานมากขึ้น กลิ่นนี้อาจจะทำให้บางคนรู้สึกว่าแก่แต่จริงๆแล้วไม่ใช่หรอก เพราะอาจจะเป็นกลิ่นของพวกคนที่ฐานะใช้กัน มันดูหรูหราดีไม่ได้เป็นกลิ่นแบ๊วใสอย่างสไตล์ฟรุตตี้ เลยพาลทำให้คิดว่าแก่ไปซะงั้น แต่เราก็ใช้ไม่บ่อยเท่าไหร่นอกจากจะเอาไว้ฉีดตอนนอน เพราะว่าจะหยิบตัวอื่นมาฉีดซะบ่อยกว่า

Blue Agava & Cacao

Inspired by the rhythm and vibrancy of Latin music, Blue Agava & Cacao is a sparkling citrus melody of lime and grapefruit leads to an exquisite heart of the blue agava.

Top note : Bitter Orange, Grapefruit, Cardemom, Lime.
Mid note : Agava Flower, Sea Salt, Orchid, Geranium, White Lily.
Base note : Cypress, Vetiver, Cocao Bean, Cinnamon, Musk, Vanilla.

Blue Agava & Cacao : กลิ่นหอมเย้ายวนจากผลโกโก้ที่เต็มไปด้วยความรู้สึกอันน่าตื่นตาตื่นใจ และมอบสุนทรีย์สัมผัสสุดท้ายให้ชวนระลึกถึง

กลิ่นนี้ตอนแรกไม่ค่อยชอบหรอก เพราะว่าปกติเป็นคนไม่ชอบกลิ่นแนวหวานๆสักเท่าไหร่ ก็ใช้ไปให้หมดๆแต่พอช่วงหลังๆนี่ใช้บ่อยมากเลย สำหรับกลิ่นนี้เป็นกลิ่นในกลุ่ม Floral Family เป็นกลิ่นหวานหอมชวนเคลิ้ม ด้วยกลิ่นของดอกไม้สีฟ้าของ Blue Agave << อันนี้เราก็ไม่เคยดมจากดอกจริงๆ แต่อ่านมาจากเวปเช่นกันแต่ที่จับได้ชัดสุดคือ กลิ่นโกโก้หอมหวานละมุนน่าลิ้มมากมาย เราชอบคอมไบน์กลิ่นนี้กับกลิ่น Black Vetiver Cafe มันออกมาน่ารักเป็นกลิ่นกาแฟมอคค่าเลยนะ น่ารักจริงๆ คอมไบน์กับ Vanila & Anise ตัวเราจะมีกลิ่นยังกับเป็นขนมอบพวกเบเกอร์รี่เลยอะ

Vanilla & Anise

Vanilla & Anise transports you to the floral valleys of Madagascar and captures the extraordinary, fleeting moment when the rare vanilla orchid blossoms at day break.  Blending the delicate scent of this rare orchid with the spicy accent of anise and the warmth of vetiver, amber and clove, creates an unexpected, modern story of vanilla.

Top Note: Sicilian Bergamot, Tunisian Neroli, Wild Fennel Flower, Star Anise
Mid Note: Oleander, Tuberose, Frangipani, Purple Vanilla Orchid
Base Note: Madagascar Clove, White Amber, Vetiver Bourbon, Vanilla Bourbon Absolute, Tonka.

Vanilla & Anise : ปลุกเร้าประสาทสัมัผสให้รื่นรมย์ด้วยกลิ่นบางเบาสดชื่น ของมะกรูดผสมผสานน้ำมันหอมสกัดจากดอกไม้ ดอกยี่หร่า จรุงปรุงแต่งคละเคล้ากับกลิ่นอบอุ่นของเครื่องเทศแผ่วเบา ลงตัวได้ดีกับกลิ่นหอมของดอกกล้วยไม้วนิลลาและดอกลั่นทมสีขาว  กรุ่นกลิ่นยามลมพัดโชย เผยความรู้สึกผ่อนคลายแต่งไว้ซื่งความมีชีวิตชีวา พร้อมส่วนผสมจากหญ้า Vetiver กับอำพันสีขาวบริสุทธิ์ ปรุงแต่งผสมผสานกลมกล่อมถ่ายทอดออกมาเป็นแนวกกลิ่นหอมร่วมสมัย กลิ่นนี้เป็นกลิ่นโปรดแสนรักก็เราก็ว่าได้ สถิติ100ml. หมดใน 3 เดือน อาบทุกวันเช้าเย็น ชอบอะกลิ่นมันไม่ได้วนิลาหวานเลี่ยนเว่อร์เหมือนแบรนอื่น ปกติไม่ชอบกลิ่นเลี่ยนๆเป็นทุน เลยทำให้หาโอกาสใช้กลิ่นวนิลายากพอสมควรแต่ไม่ใช่สำหรับตัวนี้ กลิ่นมันเหมือนกับแสงแดดที่สาดเข้ามาหอมๆได้กลิ่นของโป๊ยกั๊กเข้ากันดีมากปลื้มที่สุด จะบอกว่ายิ่งคอมไบน์กับ Black Vetiver Cafe จะหอมกรุ่นมากมายออกแนวสโมกกี้ โอ้วๆๆ งานเข้าๆ ฮ่าๆ ที่จริงกลิ่นวนิลามันใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืน กลิ่นมันเข้าได้กับทุกโอกาสเลยมักเป็นกลิ่นที่คิดอะไรไม่ออกก็จะหยิบมันมาฉีด หากต้องการสร้างความแปลกแตกต่างไปก็แค่คอมไบน์จะได้อีกหลายอารมณ์

Nutmeg & Ginger

The first Jo Malone fragrance was created as a gift for the original twenty skin care clients. The warm, woody scents of sandalwood and cedarwood are seasoned with nutmeg and vibrant ginger in this unexpectedly subtle scent.

Top note : Neroli, Lemon, May Chang, Petigrain, Orange.
Mid note : Nutmeg, Ginger, Lilly of Valley, Cinnamon, Elemi, Lavender, Clary Sage.
Base note : Cedarwood, Sandlewood, Pine, Musk, Vetiver, Amber, Leather, Violet.

Nutmeg & Ginger : กลิ่นหอมที่ให้ความรู้สึกอุ่นสบายและให้ความรู้สึกที่เป็นมิตร ด้วยกลิ่นหอมของไม้สนที่แต่งเติมสีสันด้วยลูกจันทน์เทศและขิง เป็นกลิ่นออกขิงจริงๆ ลูกจันทร์ ลูกกระวานหอมเข้มๆแบบเครื่องเทศเป็นตัวแรกที่ใฝ่ฝันอยากได้ของ โจ มาโลนแล้วก็ชอบมากๆ ใช้บ่อยๆ
กลิ่นนี้เป็นกลิ่นแรกที่ทำให้เราต้องหันไปสร้างความมุ่งมั่นในการสะสมน้ำหอมโจ มาโลน เป็นกลิ่นที่สะอาดอีกกลิ่นดูมีบุคลิก ส่วนตัวเป็นคนชอบกลิ่นขิงเป็นทุนยิ่งได้กลิ่นแล้ว อู้วเลยละเพราะใครดมแล้วไม่ขิงนี่กลับไปเช็กจมูกเลยไป กลิ่นเข้มแต่ไม่รุนแรงยิ่งตอนเป็นหวัดได้กลิ่นนี้แล้วปลื้มมากจะบอกว่าชอบพอๆกับ Origins Ginger Essence เลยแต่ของออริจิ้นเค้าจะออกแนวผ่อนคลายและสดชื่นมากกว่ากลิ่นขิงของโจ มาโลน อยากจะบอกว่าอย่าฉีดเยอะเพราะอาจจะมึนได้ในวันที่อากาศร้อน เทคนิกส่วนตัวคือกลิ่นไหนเข้มๆ เราจะฉีดเป็นละอองโปรยใส่ตัวแล้วเดินผ่านเอาครับ

Amber & Lavender

Spicy Family เป็นกลิ่นSpicy เป็นกลุ่มที่ให้กลิ่นที่หนักๆแบบพวกเครื่องเทศหอมต่างๆ

Created as an anniversary gift to Jo's husband, Amber & Lavender embodies the warmth of an embrace. Amber, the exotic scent of the Orient, is combined with the comfort of French lavender and myrrh to evoke the subtle, spicy warmth of twilight.

Top note : Lavender Cinnamon, Lilly of the valley, Rose, Nutmeg, Spearmint, Orris.
Mid note : Bergamot, Lemon, Orange, Rosemary, Basil, Petitgrain.
Base note : Cedarwood, Patchouli, Amber, Vetiver, Musk

Amber & Lavender: กลิ่นหอมที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและจริงใจของ Amber และความผ่อนคลายของ Lavender
จากที่ใช้มากลิ่นเค้าจะเป็นกลิ่นสไตล์ผู้ชายมากๆดูอบอุ่นและสะอาดมาก แต่เราไม่ค่อยโปรดกลิ่นนี้เท่าไหร่ เพราะว่ารู้สึกมันกลิ่นมันไม่ค่อยเข้ากับเราเลยใช้บ้างไม่ใช้บ้างแต่จะใช้ก็ต้องเอาไปคอมไบน์กับ กลิ่น Grapefruit เพื้อให้สดชื่นขึ้นมา อาจจะเพราะกลิ่นของแอมเบอร์ที่มันทำให้กลิ่นดูหวานอุ่นๆมั๊งเลยไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ ถึงแม้จะเราจะไม่ชอบแต่ทุกครั้งที่ใช้จะมีคนชมนะว่ากลิ่นดูสะอาดและเซ็กซี่ ส่วนมากคำชมนี้จะมาจากสาวๆซะมากกว่า หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบกลิ่นของ Amber และ Lavender รับรองว่าไม่ผิดหวัง

Black Vetyver Cafe

Born from a passion to create the perfect coffee note, Black Vetyver Caf? is a rich, sensual scent. The deep, bitter character of the coffee bean is steeped in earthern notes of vetiver, temple incense and sequoia which provides a unique warmth and woodiness.

Top note : Black Coffee Bean, Labdanum Oil.
Mid note : Nutmeg, Green Pepper, Coriander.
Base note : Vetiver, Sandlawood, Sequoia wood, Oakmoss, Vanilla, Temple incense.

Black Vetyver Cafe : กลิ่นหอมเข้มข้นที่แสนเรียบขรึม ล้ำลึก และเต็มไปด้วยเสน่ห์ท้าทายชวนให้ค้นหา
กลิ่นของกาแฟคั่วชัดเจน กรุ่นกลิ่นกาแฟหอมฟุ้งแต่เป็นแบบแนวกลิ่นสโมคกี้ขมนิดๆหอมชัดเจน ถ้าฉีดเดี่ยวๆอาจจะรู้สึกว่าเป็นกลิ่นที่ไม่ทนสักเท่าไหร่เพราะว่าจมูกอาจจะชินกับกลิ่นไปก่อน

กลิ่นนี้มีช่วงนึงขาดตลาดทำให้ต้องรอนานมากกว่าจะได้ของ ชอบใช้คอมไบน์กับกลิ่น Vanilla & Anise ที่เป้นกลิ่นโปรดของเรามากๆ เราว่ามันเข้ากันได้ดีมากๆแบบสุดๆเลย

อะ กลิ่นติดทนมากมายสำหรับเรา ช่วงหลังๆเราชอบคอมไบน์กับกลิ่น Blue Agava & Cocao กลิ่นออกมาน่ารักเหมือนกับเรามีกลิ่นกาแฟมอคค่าอวลอยู่รอบตัว น่ารักมากๆ

Wild Fig & Cassis

Woody Family. กลิ่นแนวไม้ๆ ไม้หอม มีความแตกต่างจากหมวดอื่นชัดเจนเลย

Inspired while picking fresh figs for breakfast in Tuscany, Wild Fig & Cassis is a delicious fragrance. The scent of sun-warmed figs and delicate cassis is entwined with notes of hyacinth and cedarwood, enveloping the wearer in the warmth of the Mediterranean.

Top note : Cassis, Cherry, Fresh cut Grass, Fig.
Mid note : Cyclemen, Hyacinth, Jasmine, Pine.
Base note : Patchouli, Cedar, Amber, Musk.

Wild Fig & Cassis : กลิ่นหอมตรึงใจที่อบอุ่นและให้ความรู้สึกสงบสบายในวันพักผ่อนที่แสนรื่นรมย์
กลิ่นของไม้สน และกลิ่นหญ้าที่เพิ่งตัดเสร็จ ดมปุ๊ป รู้ทันทีว่าเป็นกลิ่นของไม้ ไม่เก๋ ไม่ชิค ไม่กล้าใช้นะเออ ไอ้เพราะว่ากลิ่นมันเป็นกลิ่นไม้นี่แหละทำให้บางคนดมปุ๊ปวางปั๊ปนั้นเป็นความผิดพลาดที่สุด เพราะว่ากลิ่นนี้ทำให้เกิดลูกเล่นในการใช้น้ำหอมโจ มาโลนได้เยอะมากๆ เพราะว่าเป็นกลิ่นไม้แต่หวานเพราะเค้าทำออกมาเป็นกลิ่นของมะเดื่อหรือผลฟิก ทำให้มันหอมหวานและอุ่นๆ เวลาใช้กลิ่นนี้แล้วเก๋มาก รับรองว่าเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่มีใครเหมือนคุณแน่นอน เราชอบมากเลยกลิ่นนี้ดมปุ๊ปซื้อเลยไม่คิดมาก

154

Named after the first boutique in London, 154 is a chameleon-like fragrance. Allow yourself to be led on an olfactory journey - from citrus to herbaceous lavender and basil, finishing with a woody base of sandalwood and vetiver that quite simply captivates the senses.

Top note : Bergamot, Grapefruit, Mandarin.
Mid note : Artemisia, Lavender, Basi, Nutmeg.
Base note : Guaiacwood, Vetiver, Patchouli, Vanilla, Musk.

154 : กลิ่นหอมสุดคลาสสิคที่เต็มไปด้วยสัมผัสที่สดชื่นบางเบาของซีทรัส ลาเวนเดอร์ และเบซิล
เป็นกลิ่นที่ไม่ชอบเอาเสียเลย ใช้ยากเพราะว่ามันเข้มจริงๆ ทุกครั้งที่ใช้จะรู้สึกว่าหงุดหงิดแต่ก็สะสมเพราะว่าอยากได้ครบ แต่ก็มีบ้างที่เอามาคอมไบน์กับกลิ่นอื่นๆ เราว่ากลิ่นมันดูแก่ๆแบบป๋าๆชอบใช้กันนะ

Vetyver

A modern interpretation of a spicy, aromatic classic. Vetiver, the legendary scent of India, is blended with sweet orange, nutmeg and tarragon to create this powerful, mysterious fragrance.

Top note : Bergamot, Orange, Lemon, Lavender, Petitgrain.
Mid note : Carnation, Ylang-Ylang, Jasmine, Star Anise, Cinnamon, Nutmeg.
Base note : Vetiver, Cedarwood, Cypress, Musk, Tonka Bean.

Vetyver : กลิ่นหอมร้อนแรงและคลาสสิคที่ผสมผสานคละเคล้าอย่างลงตัวระหว่างสวีท ออเรนจ์ ลูกจันทน์ และทาร์รากอน
กลิ่นสะอาดราวกับพึ่งจะอาบน้ำเสร็จมาใหม่ๆใครชอบกลิ่นสดชื่นแบบนี้อย่าพลาดกับกลิ่นนี้เลย บางคนบอกว่ามันคล้ายกับ 4711 อืมๆจะบอกว่าคล้ายจริงๆนะแหละแต่มันทนกว่าเยอะ กลิ่นนี้เราว่าใกล้เคียงกับกลิ่น Nutmeg & Ginger มากๆสไตล์กลิ่นแนวเดียวกันแต่ ตัวนี้จะเบากว่าไม่เข้มเท่า การคอมไบน์กลิ่นนี้กับกลิ่นอื่นเพื่อเพิ่มความสดชื่นในเนื้อกลิ่น
คอมไบน์ร่วมกับ Nectarine Blossom & Honey เริสมาก หรือจะคอมไบน์กับ English Pear & Freesiaก็แจ่มนะเออ

Honeysuckle & Jasmine

Inspired by the scent of a country garden after spring rain, Honeysuckle & Jasmine is a soft, inviting scent. Fragrant honeysuckle and sandalwood rest on a layer of sweet jasmine, evoking a sense of tranquillity.

Top note : Violet Lesf, Blackcurrent Leaf.
Mid note : Honeysuckle, Jasmine, Ylang-Ylang, Rose, Lilly of the Valley.
Base note : Musk, Sandlewood, Treemoss.

Honeysuckle & Jasmine : กลิ่นหอมที่สุดรัญจวนใจของดอกสายน้ำผึ้งที่แฝงไว้ด้วยความอบอุ่นของกลิ่นไม้สน แลกลิ่นหอมเย็นของมะลิแรกแย้ม น่าเสียดายที่กลิ่นนี้กำลังถูกเลิกผลิตไปเสียแล้ว เพราะทางเวปโจ มาโลน ลอนดอน ปลดประจำการเธอไปแล้ว กลิ่นนี้เป็นกลิ่นดอกไม้หอมของไทยๆจริงๆ ฉีดปุ๊ปรู้ปั๊ปว่าเป็นกลิ่นมะลิและดอกสายน้ำผึ้ง ดูดีมีสกุลเชียวแหละ เป็นกลิ่นดอกไม้ที่คนชอบดอกไม้ไทยๆไม่ควรพลาดเ พราะตอบสนองความต้องการของคุณได้แน่นอน เราว่ากลิ่นนี้ฉีดที่ข้อพับข้อมือให้กลิ่นโชยๆน่าค้นหาดีนะ ยิ่งได้คอมไบน์คูกับกลิ่นในตระกูลเดียวกันมันอบอวลไปด้วยดอกไม้เหลือขนาดหอมเว่อร์

Sweet Lime & Cedar

Inspired by the diverse flavours of Thai cuisine this exotic scent balances zesty citrus fruits with aromatic leaves, delicate flowers, fragrant spices and nutty woods.

Top note : Kafirr Lime, Blood Orange, Pomello, Pasion Fruit, Pink Pepper, Spearmint.
Mid note : Ylang-Ylang, Jasmine, Gardenia, Lavender, Coconut, Clary Sage, Cardemom.
Base note : Cedarwood, Tamarind, Amber, Pandanus Leaf, Tonka Bean.

Sweet Lime & Cedar : คอลเลคชั่น อันได้แรงบันดาลใจในการผสมผสานคิดค้นสร้างสรรค์ จากความหลากหลายของวัฒนธรรมการปรุงอาหารของชาวไทย อันเป็นมรดกตกทอดมายาวนานจากรุ่นสู่รุ่น เกิดเป็นกลิ่นหอมสดชื่นที่ลงตัวอย่างสมดุลของการรวบรวมส่วนผสมหลากหลาย อาทิ ผลมะนาว, ใบมะกรูด, ดอกไม้อันแสนบอบบางหอมหวาน, เครื่องเทศกลิ่นจรุงใจ และกลิ่นอันแสนอบอุ่นของลูกนัทหลากชนิด
เรียกได้ว่าเป็นกลิ่นที่เราโปรดปราน เพราะว่าเราชอบกลิ่นไม้ซีดาร์ กลิ่นนี้ได้กลิ่นชัดมากๆ ว่าเป็นกลิ่นไม้ซีดาร์ ทางโจ มาโลนเค้าบอกว่าเนรมิตรังสรรกลิ่นนี้มาจากการได้กลิ่นอาหารไทย

แต่เราฉีดแล้วไม่เห็นจะรู้สึกแบบนั้นแต่เราก็ชอบนะกลิ่นนี้ มากๆเลยละ ตอนไปซื้อเพื่อนบอกว่าจะซื้อเหรอดมแล้วไม่หอมเลย เหม็นเราก็บอกว่าเออนะ จะซื้อนี่แหละมันก็ เออเตือนแล้วนะไม่เชื่อ

แต่พอวันที่เราฉีดไปแล้วไปเจอมัน ถามอยู่นั่นแหละว่าวันนี้แกฉีดไรมาอะ ห๊อม หอม น๊าน ดูมันสิ เราก็บอกว่าไอ้ที่แกเตือนไงว่าอย่าซื้อนั่นแหละ มันก็ไม่เชื่อ เราก็ฉีดไปบ่อยๆมันก็ทักทุกที

ห๊อม หอม ตอนหลังเลยยอมสิโรราบเพราะว่ามันหอมจริงๆอะ ยิ่งคอมไบน์กลิ่น ปอมนะ หูย ไม่อยากเชื่อ
เริส คำเดียวที่ต้องพูด

Lotus Blossom & Water Lilly

Created as a modern interpretation of Kohdo, an ancient Japanese ceremony, vibrant Lotus Blossom & Water Lily is designed to awaken the senses and engergise the soul.

Top note : Mandarin, Lotus Blossom, Bamboo, Water Lily.
Mid note : Jasmine, Lily of the Valley, Freesia.
Base note : Sandlewood, Musk, Amber, Aloeswood.

Lotus Blossom & Water Lily : กลิ่นหอมที่ผสมผสานระหว่างส้มแมนดาริน, กลีบดอกบัวหลวง, ต้นไผ่ และอโลวูด ที่จะช่วยกระตุ้นพลังในตัวคุณให้ขับเคลื่อนไปอย่างมีจังหวะ สร้างแรงบันดาลใจที่เต็มไปด้วยความเชื่อมั่นศรัทธาอย่างแรงกล้า นับเป็นกลิ่นหอมที่ดีเยี่ยมและเหมาะสำหรับช่วงเวลาระหว่างวันของคุณเป็นอย่างยิ่ง กลิ่นหอมของส้มแมนดารินจะช่วยปลุกเร้าและเสริมสร้างพลังตามธรรมชาติให้กับตัวคุณ คล้ายดั่งหัวใจแห่งดวงตะวัน ซึ่งเปรียบได้กับแสงสว่างที่สาดส่องประกายในทุกวัน และช่วยกระตุ้นสัมผัสแห่งความสุขสนุกสนานให้เกิดขึ้นในฉับพลัน กลิ่นหอมของกลีบดอกบัวหลวงให้ความรู้สึกสงบ และเป็นเสมือนตัวแทนของรุ่งอรุณแห่งวันใหม่ กลิ่นต้นไผ่แสดงถึงพลังและความสง่างาม อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของความยืนยาวแห่งช่วงชีวิต และเป็นเสมือนวิถีทางที่จะนำไปสู่การรู้แจ้งในทุกสรรพสิ่ง ในขณะที่กลิ่นหอมของอโลวูดจะถ่ายทอดบุคลิกอันแสนบริสุทธิ์ ที่จะทำให้คุณรู้สึกเชื่อมั่นและพร้อมที่จะเปิดเผยในทุกความคิดและการกระทำของคุณ ช่วยสร้างสมดุลให้กับร่างกายและจิตใจของคุณได้เป็นอย่างดี ลองใช้กลิ่น Lotus Blossom & Water Lily เพียงกลิ่นเดียวอย่างที่คุณต้องการ หรือจะเลือกผสมผสานกลิ่นหอมในแบบฉบับของ โจ มาโลน Fragrance Combining โดยใช้กลิ่น Dark Amber & Ginger Lily เพื่อสร้างสรรค์กลิ่นหอมใหม่ที่เย้ายวนใจอย่างมีเอกลักษณ์

รีวิวสำหรับกลิ่นนี้ เราว่าเป็นกลิ่นที่ฉีดแล้วสดชื่นแต่มันไม่สุดๆ บอกไม่ถูกมันกั๊กๆไงไม่รู้ แถมเพื่อนเราบอกว่ากลิ่นยังกับบ๊วยเค็ม อรั๊ยยย นี่มันโคโดวูด คอลเลคชั่นเชียวนะเธอ กลิ่นดอกบัวอะไม่รู้จักหรือไง ฮ่าๆ กลิ่นใสดีแต่บอกได้คำเดียวว่าไม่ทนอย่างแรงแต่เราก็ขยันฉีดได้บ่อยๆเพราะว่ามันหอมสำหรับเรา ยิ่งคอมไบน์กับอีกขวดในคอลเลคชันนี้หอมมากมาย

Dark Amber & Ginger Lilly

Created as a modern interpretation of Kohdo, an ancient Japanese ceremony, Dark Amber & Ginger Lily is a sensual and calming blend that encourages a sense of tranquility.

Top note : Black Cardamom, Ginger.
Mid note : Black Orchid, Jasmine, Narcissus, Mimosa.
Base note : Kyara Wood, Dark Amber, Leather, Patchouli.

Dark Amber & Ginger Lily : การผสมผสานของกลิ่นหอมที่ลงตัวระหว่างกลิ่นกระวาน, ดอกกล้วยไม้ และไคยราวูด ที่ถูกออกแบบมาเพื่อชำระล้างความรู้สึกภายในกายและใจที่เหนื่อยล้า อีกทั้งยังสร้างความรู้สึกสงบ ผ่อนคลาย และช่วยเปิดกว้างมุมมองใหม่ๆ ในด้านบวกให้กับตัวคุณ ซึ่งนับเป็นกลิ่นหอมที่สมบูรณ์แบบ และเหมาะสำหรับช่วงเวลายามเย็นเรื่อยไปจนถึงค่ำคืนอันแสนเงียบสงบของคุณ ทุกองค์ประกอบของกลิ่นล้วนสร้างสรรค์ขึ้นเฉกเช่นเดียวกับตันตำรับน้ำหอมชั้นสูงในสมัยโบราณ ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นกระวานดำที่หอมกรุ่นและให้ความรู้สึกที่สะอาดหมดจด กลิ่นหอมของดอกกล้วยไม้ซึ่งเป็นเสมือนตัวแทนแห่งความสง่างามของหมู่มวลดอกไม้ทั้งหมด ให้ความรู้สึกงดงามและเปี่ยมไปด้วยความสุขุมลุ่มลึก ส่วนกลิ่นหอมของไคยราวูด เปรียบได้กับการได้รับเกียรติอย่างสูงสุด และเป็นเสมือนรางวัลที่มอบไว้ให้กับสิ่งที่เลิเลิศล้ำค่าสุดที่จะพรรณนาได้ ด้วยอารมณ์และความรู้สึกที่ลงตัว ลึกซึ้งและเปี่ยมไปด้วยบรรยากาศที่ชวนให้คุณผ่อนคลาย ทั้งหมดนี้คือการผสมผสานกลิ่นหอมที่สุดประณีต เต็มไปด้วยเสน่ห์ชวนค้นหาและน่าหลงใหล อีกทั้งยังช่วยเติมเต็มสุนทรียสัมผัสให้กับช่วงเวลายามค่ำคืนของคุณได้อย่างแท้จริง ลองใช้กลิ่น Dark Amber & Ginger เพียงกลิ่นเดียวอย่างที่คุณต้องการ หรือจะเลือกผสมผสานกลิ่นหอมในแบบฉบับของ โจ มาโลน Fragrance Combining โดยใช้กลิ่น Lily Lotus Blossom & Water Lily เพื่อสร้างสรรค์กลิ่นหอมใหม่ที่เย้ายวนใจอย่างมีเอกลักษณ์

นับว่าเป็นหนึ่งในกลิ่นโปรดที่ชอบมากแต่เสียดายที่คงต้องประหยัดใช้สักหน่อย เพราะไอ้คำว่าลิมิตเต็ดมันแปะไว้ กลิ่นของไม้หอมและธูปหอมมันกรุ่นกลิ่นดีมาก เท่สุดๆ ใช้แล้วกลิ่นมันทำให้เราสงบด้วยชอบตรงนี้แหละ ยิ่งได้คอมไบน์กับ Lotus Blossom & Water Lilly เง้อ ชอบจังอยากให้ทำออกมาเรื่อยๆ

White Tie & Tiara 2010

ลิมิเต็ดเอดิชั่น : เป็นการผสมผสานความหอมของดอกไม้ฤดูร้อรหลากชนิด ทั้งมะลิขาว, ดอกส้มกลีบขาวบริสุทธิ์ และไวท์ไวโอเล็ทอันแสนบอบบาง เข้ากับกลิ่นที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาของผลไม้อย่างสัปปะรด, แทงเจอรีน, และมะกรูด
นอกจากนี้ยังมีคอลเลคชั่นย่อยๆอีก

" White Tie & Tiara" น้ำหอมกลิ่นเอ็กซ์คลูซีฟ ที่ตั้งใจออกแบบให้เป็นพิเศษ เพื่อนำรายได้ไปสนับสนุนกองทุน Elton John AIDS Foundation

ความหอมที่เกิดจากกลิ่นอันแสนงดงามของ " White Scented Garden" ส่วนสีขาวบริสุทธิ์ของท่านเซอร์ Elton John และ David Furnish's ที่บ้านกลางเมืองวินเซอร์ และพิเศษไปกว่านั้น ชื่อของคอลเลคชั่นนี้ได้รับการตั้งชื่อให้เป็นที่ระลึกตามงานเลี้ยงปาร์ตี้สุดหรูของ White Tie & Tiara ที่จัดขึ้นในเดือนมิถุนายนของทุกปี

เป็นการผสมผสานความหอมของดอกไม้ฤดูร้อนหลากชนิด ทั้งมะลิขาว, ดอกส้มกลีบขาวบริสุทธิ์ และไวท์ไวโอเล็ทอันแสนบอบบาง เข้ากับกลิ่นที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาของผลไม้อย่างสัปปะรด, แทงเจอรีน, และมะกรูด

โจ มาโลน White Tie & Tiara นี้ถูกเปิดตัวเป็นครั้งแรกด้วยโคโลญจน์และเทียนหอมในงานเลี้ยง White Tie & Tiara โคโลญจน์และเทียนหอม โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะนำรายได้จากการขาย ไปบริจาคให้ความช่วยเหลือแก่มูลนิธิ Elton John AIDS Foundation และด้วยความเป็นที่นิยมอย่างสูง โจ มาโลนจึงนำคอลเลคชั่นพิเศษนี้มาวางจำหน่ายเป็นครั้งแรก รายได้ส่วนหนึ่งจากการขายคอลเลคชั่น White Tie & Tiara 2010 นี้จะเป็นส่วนหนึ่งของเงินที่บริจาคจำนวน 150,000 ? ที่จะมอบให้กับมูลนิธิ Elton John AIDS Foundation มูลนิธิที่เน้นให้ความช่วยเหลือแก่เด็กในประเทศเขมร และมาลาวีที่ติดเชื้อ HIV และเด็กกำพร้าอันเนื่องมาจากพ่อแม่เสียชีวิตด้วยโรคเอดส์กว่า 25,000 คน

Fragrance Combining Tips ครีเอทกลิ่นหอม Signature Scent ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวคุณถ่ายทอดอารมณ์ และความเป็นตัวด้วยกลิ่นหอมบริสุทธิ์ผ่าน โจ มาโลน White Tie & Tiara ตามคอนเซปต์เปี่ยมเอกลักษณ์ในแบบฉบับของคุณเอง

• สร้างกลิ่นหอมแสนสดชื่น มีชีวิตชีวาดั่งดอกไม้สีขาวท่ามกลางสวนสวย เบ่งบานใต้แสงตะวันด้วยการผสมผสานโคโลญจน์ White Tie & Tiara กับ Grapefruit ให้อารมณ์สัมผัสของกลิ่นอโรมาสดชื่นของเกรปฟรุ๊ต, ผลแทงเจอรีน คละเคล้ากับโรสแมรี่ ดูอ่อนโยน เย้ายวนใจ พร้อมความสดชื่นสดใสที่ได้จากความหอมหวลของดอกไม้บริสุทธิ์ที่บานสะพรั่งเพลิดเพลินใจ

• ลองผสมผสานโคโลญจน์ White Tie & Tiara เข้ากับ Nectarine Blossom & Honey เพื่อสร้างสรรค์อารมณ์กลิ่นหอมหวานของดอกไม้ แต่แฝงความสนุกของผลไม้ชั้นดีอันหอมหวานอย่างผลเนคทารีน กับผลพีชสุกงอม หอมละมุนละไม บางเบาให้อารมณ์สัมผัสแบบสบายๆเป็นกันเอง เติมเต็มด้วยทวิสต์ของกลิ่นผลไม้ที่เปี่ยมพลังอย่าง สัปปะรด, แทงเจอรีนและมะกรูด

• จินตนาการกลิ่นหอมยามอาทิตย์อัสดง ที่ค่อยๆเคลื่อนตัวแปรเปลี่ยนเข้าสู่ราตรีกาลได้อย่างงดงาม ลองผสมผสานกลิ่นหอมของโคโลญจน์ White Tie & Tiara กับ Vetyver ความอบอุ่นสง่างามของไม้เนื้อหอม และเครื่องเทศที่ได้จาก Nutmeg และ Cinnamon นำพาความสุขุม นุ่มลึก เสน่ห์เย้ายวนแห่งค่ำคืนได้อย่างลงตัว

Earl Gray & Cucumber

is a playful interpretation of the most famous English tea brand, made from black tea, bergamot and citruses. The composition opens with apple, bergamot, jasmine and aquatic notes, with cucumber, angelica and davana in the heart, on the base of vanilla, bees wax, cedar and musk.

Top notes: bergamot, apple, jasmine, water notes
Heart: angelica, cucumber, davana
Base: beeswax, vanilla, cedar and musk

น้ำหอม การผสมกันระหว่างชาและน้ำหอม โดย Jo Malone

น้ำหอมนี้เป็นน้ำหอมใหม่ในปี 2011 ใช้ได้ทางผู้หญิงผู้ชายเป็นกลิ่นแบบ Floral Fruity โดยน้ำหอมนี้อยู่ในคอลเลคชั่น Tea Fragrance Blends Collection ทางน้ำหอมแบรนด์ดังอย่าง Jo Malone ตัดสินใจทำน้ำหอมที่ให้กลิ่นแบบบริทิสในกลิ่นของ Earl Gray, Milk, Lemon, Mint, Grapefruit

น้ำหอมนี้จะให้กลิ่น Top Note เป็น Lemon และตามมาด้วย Middle Note จะให้กลิ่น Tea, Peach, Fruity Note ส่วนน้ำหอมนี้จะให้ Base Note เป็นกลิ่นแบบ Candy Accord

Assam and Grapefruit

is a refreshing and energetic aroma, invigorating like the first morning cup of tea. It opens with notes of grapefruit, violet and rhubarb. The heart includes Assam Indian black tea and rose, spiced with cardamom and placed on the base of patchouli, almond and musk.

Top notes: grapefruit, violet, rhubarb
Heart: Assam tea, rose, cardamom
Base: patchouli, musk, almond

ไม่รู้ว่าคิดไปเองไหมว่ากลิ่นนี้มันเหมือนกลิ่นชาชัก ในความรู้สึกส่วนตัวนะครับ
แต่ถือว่ากลิ่นนี้หอมเลยทีเดียวก็ว่าได้ครับ ยิ่งได้คอมไบน์กับ Sweet milk หอมเหมือนชานม มากๆ

Fresh Mint Leaf

is a refreshing aroma based on green mint. It starts with notes of basil, mint, and bergamot. The heart is composed of water jasmine and rhubarb, laid on the base of mate tea, cedar and musk.

Top notes: basil, mint, bergamot
Heart: water jasmine, rhubarb
Base: mate, musk, cedar

อันนี้เคยได้ยินบีเอ บอกว่า กลิ่นmint เหมือนของใช้ส่วนตัวบางอย่าง
พอได้มาแล้วฉีดฟืดแรก ดม.... ออ นึกถึง กลิ่นยาสีฟันเลย เหมอืนมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ใครดมกลิ่นเปิดก็คิดว่าเป็นยาสีฟัน 5555 แต่ฉีดไปนานๆๆ ทิ้งไว้แล้ว ก็เปลี่ยนจากกลิ่นเปิดไปบ้าง
กลิน่นี้เอามาคอมไบล์กับอะไร ก็ไม่รู้สึกว่าหอมแฮะ เอะหรือจมูกเรากลิ่นไม่เทพ 555
สรุปกลิ่นนี้ก็ไม่ค่อยได้ใช้เช่นกัน เพราะไม่โดน

Sweet Lemon

is a fruity mixture that you can combine with any of the previous fragrances from this collection. The composition starts off with sparkling lemon, bergamot and rhubarb. Middle notes include pineapple, freesia and peach, placed on cypress, cedar and musk nuances.

Top notes: lemon, bergamot, rhubarb
Heart: pineapple, freesia, peach
Base: cypress, musk, cedar

กลิ่นนี้ ชอบโน๊ตที่เป็น Lemon เป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว พอได้ลอง กลิ่นเปิดก็ทำให้นึกถึงน้ำหอมอยู่ 2 แบรนด์
คือ โดเช่ Light Blue แว๊ปแรกเหมอืนมาก แต่พอทิ้งไว้สักพักกลิ่นดันไปเหมอืน Creed Aqua Fioentina ใครชอบน้ำหอมสไตล์เบาๆสบายๆ คงถูกใจกับกลิ่นนี้

กลิ่นนี้คอมไบน์กับ Assam and Grapefruit หรือ Sweet Milk ก็หอม มากมายครับ แต่กลิ่นไม่ทนมาก แป๊ปๆก็จาง แต่ดมใกล้ๆก็ยังได้กลิ่นที่ผิวอยู่บางๆครับ

Sweet Milk

as well as the previous fragrance, serves as an "additional tea flavor" and can be combined with the other fragrances of the collection. Its gourmand composition begins with star anise, heliotrope and bergamot. Milk and caramel are in the center, rounded by almond, vanilla and musk.

Top notes: star anise, heliotrope, bergamot
Heart: milk, caramel
Base: vanilla, almond, musk

กลิ่นนี้เป็นกลิ่นที่ได้มากลิ่นแรก และชอบที่สุดในบรรดาทั้งหมด เนื่องด้วยเป็นคนที่ชอบน้ำหอมที่หวาน และออกขนมๆ เป็นทุนเดิม กลิ่นนี้เลยเป็นกลิ่นที่เข้ามาอยู่ในดวงใจได้แบบไม่ต้องคิดเลย
โจมาโลน ทำกลิ่นนี้ออกมาได้เหมือนนมเลยก็ว่าได้ และไม่มีกลิ่นแอลกอลฮอล กวนใจ ฉีดฟืด กลิ่นนมคลุ้งเลย กลิ่นนี้ผสมกับ Assam ก็หอม ผสมกับ Sweet Lemon ยิ่งหอม และถ้าเอามาคอมไบน์ทั่งสามกลิ่นรวมกัน หอมสุดๆเลยครับ

Sweet milk นี้ลองเอามาคอมไบน์กับ Blue Agava & Cacao โอ้ย หอมเป็นขนมโกโก้รสนมทั้งวันเลย