GirlBeautyMall by RATHka ขายถูกกกกก Makeup Skincare เครื่องสำอางค์ และน้ำหอม แบรนด์เนม จากเคาเตอร์ไทย ของแท้ทุกชิ้น ขายปลีกในราคาส่ง ถูกๆจ้าาาาา

Credit : PuPe_so_Sweet

[Deep-Review] SK-II : Whitening Spot Specialist Concentrate 28-Day Essence Treatment

หลังจากห่างหายจากการรีวิว SK-II ไปนาน (แต่ใช้มาเรื่อย ๆ นะ) วันนี้จะมาพูดถึงผลิตภัณฑ์ในกลุ่มไวท์เทนนิ่งของเขาอย่าง Whitening Spot Specialist Concentrate 28-Day Essence Treatment ซะหน่อยเพราะพอดีทาง SK-II ได้ส่งมาให้ทดลองใช้เมื่อตอนปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่จริง ๆ ตัวนี้ปูเป้เคยใช้อยู่แล้วเพราะซื้อมาและได้เป็นของแถมช่วงงาน VIP ปลายปีก่อนและเริ่มใช้มาตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมานี้เอง

photo SKII28Day03.jpg

SK-II : Whitening Spot Specialist Concentrate 28-Day Essence Treatment เป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มไวท์เทนนิ่งที่เปิดตัวเมื่อปี 2012 ที่ผ่านมา โดยชูจุดขายว่าเป็นทรีตเมนต์เข้มข้นสำหรับใช้เป็นขั้นตอนสุดท้ายในการดูแล ผิวยามค่ำคืน โดยเนื้อผลิตภัณฑ์จะเป็นเหมือนฟิลม์บางๆ คลุมผิวเพื่อปล่อยสารไวท์เทนนิ่งเพื่อช่วยลดเลือนจุดด่างดำได้ยาวนานตลอดคืน

เมื่อ เปิดกล่องออกมาก็จะเจอแผงยาว ๆ 4 แผง แต่ละแผงแบ่งเป็น 7 ซอง ซึ่งต้องใช้ 1 ซองต่อ 1 คืน ติดต่อกันจนครบ 28 วัน ซึ่งปริมาณใน 1 ซองต้องบอกว่าเยอะมาก ปูเป้สามารถใช้ทาทั่วหน้าและถึงลำคอได้เลยล่ะ

photo SKII28Day02.jpg

เมื่อ มองที่ส่วนผสม ส่วนผสมของสาร Actives หลัก ๆ จะคล้ายคลึงกับ Whitening Spot Scecialist ที่เป็นขวดเงิน ๆ พอสมควร นั่นก็คือมี Niacinamide หรือ Vitamin B3 ซึ่งช่วยขัดขวางการส่งผ่านเม็ดสีไปยังเซลล์ผิว มี Inositol ที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นกับผิว แน่นอนว่ามี Galactomyces Ferment Filtrate หรือ Pitera จะช่วยให้เซลล์ผิวเกิดการแบ่งตัว เจริญเติบโต พัฒนาการ ตายและหลุดลอกออก (keratinocyte differentiation ) อย่างเป็นปกติ

สิ่ง ที่ 28-Day Essence Treatment มีมากกว่า Whitening Spot Scecialist ก็คือปริมาณของวิตามินซีในรูปของ Ascorbyl Glucoside และส่วนผสมของสารไวท์เทนนิ่งที่แตกต่างกันอีกก็คือสารสกัดจากสาหร่ายที่ระบุ ไว้ในส่วนผสมว่า Algae Extract ส่วนผสมที่ว่านี้ทางแบรนด์มีชื่อทางการค้าว่า Alarian ซึ่งเคลมว่าเป็นสารสกัดจากสาหร่ายสายพันธุ์พิเศษที่พบได้เฉพาะบริเวณ มหาสมุทรแถบแคว้นบริททานี ประเทศฝรั่งเศส

photo LaminariaSaccharina.png

จาก การนำข้อมูลที่มีอยู่จำกัดนี้ ปูเป้ลองค้นข้อมูลดูก็พบว่าเจ้า Algae Extract นี้น่าจะเป็นสาหร่ายพันธุ์ Laminaria Saccharina เพราะมีเอกสารจดสิทธิบัตรของทาง P&G เอาไว้สำหรับการนำ Laminaria Saccharina ผสมคู่กับ Niacinamide เพื่อใช้เป็นไวท์เทนนิ่ง ประกอบกันสาหร่ายพันธุ์ Laminaria Saccharina นั้นพบได้มากที่แคว้นบริททานี ประเทศฝรั่งเศสเสียด้วย จึงค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นตัวนี้แหล่ะ โดยข้อมูลจากเอกสารที่ว่านี้บ่งชี้ว่าสารสกัดจาก Laminaria Saccharina จะช่วยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ Tyrosinase เพื่อลดการผลิตจุดด่างดำ ทว่านอกจากข้อมูลจากตรงนี้แล้ว ปูเป้ยังไม่สามารถหาข้อมูลจากแหล่งอื่นเพื่อมาสนับสนุนได้ ดังนั้นคุณสมบัติของสาหร่ายตัวนี้ในการเป็นไวท์เทนนิ่งยังคงมีข้อกังขา เพราะข้อมูลการจดสิทธิบัตรนั้นไม่สามารถนำมาอ้างอิงได้เหมือนกับการตีพิมพ์ งานวิจัยในวารสารทางวิชาการจ้า

ในแง่ของสารไวท์เทนนิ่ง การทำงานหลักจะเริ่มต้นที่การต้านอนุมูลอิสระและลดการอักเสบของผิว ด้วย Niacinamide และ Ascorbyl Glucoside ต่อด้วยการลดการทำงานของเอนไซม์ผลิตเม็ดสีผิวด้วย Ascorbyl Glucoside และอาจจะรวมถึง Algae Extract (Laminaria Saccharina) ด้วย ลดการส่งผ่านเม็ดสีไปยังเซลล์ผิวโดย Niacinamide และทำให้ผิวชั้นนอกมีความเรียบเนียน ชุ่มชื้น แข็งแรงขึ้นด้วย Galactomyces Ferment Filtrate (Pitera) กับ Niacinamide และ Panthenol

(Source : Up-regulation of tight junction-related proteins and increase of human epidermal keratinocytes barrier function by Saccharomycosis ferment filtrate, Ultrasound enhanced skin-lightening effect of vitamin C and niacinamide., The Hunt for Natural Skin Whitening Agents, Laminaria saccharina extract and vitamin b3 as whitening agents, Methods For Inhibiting Tyrosinase Using an Extract of Laminaria Saccharina)

photo SKII28Day04.jpg

เนื้อ ผลิตภัณฑ์มีลักษณะเป็นเจลขุ่นมีสีออกเหลืองเล็กน้อยจาก Beta-Carotene เนื้อเจลมีความชุ่มชื้นและเนียนลื่นด้วยผงซิลิโคนในรูป Polymethylsilsesquioxane ซึ่งทำให้สามารถทาได้ง่ายและยังช่วยกลบความมันวาวของผลิตภัณฑ์ตัวอื่น ๆ ที่ใช้ได้พอสมควร ทำให้ไม่รู้สึกเหนอะหนะเท่าไหร่ สิ่งที่ปูเป้ชอบอีกอย่างคือไม่มีส่วนผสมของสี น้ำหอม และการบรรจุแยกชิ้นก็ช่วยเก็บรักษาความสดใหม่ได้ดี

ในแง่ของความผล หลังการใช้ ปูเป้ใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้คู่ไปกับผลิตภัณฑ์ตัวอื่น ๆ ของ SK-II อย่างเช่น Facial Treatment Clear Lotion กับ Facial Treatment Essence ซึ่งเป็นสิ่งที่ใช้อยู่ปกติ และ Whitening Spot Specialist ที่เคยใช้อยู่แล้ว รู้สึกว่ารอยสิวนั้นจางไวขึ้นในช่วงระยะ 2 สัปดาห์แรก แต่ช่วงระยะหลังผลที่ได้จะช้าลงส่วนตัวคิดว่าอาจเป็นเพราะเมลานินในจุดนั้น อยู่ในระดับที่ลึกกว่าก็ต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าจะจางลง สำหรับผลในด้านอื่นในระหว่างการใช้ พบว่าไม่มีอาการระคายเคือง หรือมีการอุดตันของสิวที่เพิ่มขึ้นนอกจากจุดที่ขึ้นเพราะการแพ้ผลิตภัณฑ์จัด แต่งทรงผม

Ingredients : Water, Galactomyces Ferment Filtrate, Butylene Glycol, Niacinamide, Glycerin, Pentylene Glycol, Polymethylsilsesquioxane, Ascorbyl Glucoside, Inositol, Polyacrylamide, Ethylhexyl Palmitate, Isohexadecane, C13-14 Isoparaffin, Dimethicone, Sodium Hydroxide, Methylparaben, Laureth-7, Xanthan Gum, PVP, Disodium EDTA, Dimethiconol, Panthenol, Algae Extract, Laureth-23, Laureth-4, Sodium Metabisulfite, Zea Mays (Corn) Oil, Beta-Carotene.

photo SKII28Day01.jpg

โดย ภาพรวมแล้ว SK-II : Whitening Spot Specialist Concentrate 28-Day Essence Treatment เป็นผลิตภัณฑ์ไวทืเทนนิ่งลดเลือนจุดด่างดำที่คาดหวังผลได้ มีความอ่อนโยน ไม่ระคายเคืองผิว และมีเนื้อสัมผัสที่ค่อนข้างดี ไม่เหนอะหนะ การแยกซีลผลิตภัณฑ์เป็นซองก็ช่วยเก็บรักษาความสดและความสะอาดให้กับ ผลิตภัณฑ์ได้เป็นอย่างดี

โดยรวมผลิตภัณฑ์ตัวนี้ไม่ได้มีข้อเสียอะไร นอกจากเรื่องของสารสกัดจากสาหร่ายที่ยังไม่มีข้อมูลจากแหล่งอื่นมาสนับสนุน เรื่องการเป็นไวท์เทนนิ่ง และราคาที่ปูเป้มองว่าก็ไม่เบาทีเดียวเพราะหนึ่งชุดราคา 4,900 บาทเราใช้ได้เพียง 4 สัปดาห์เท่านั้น และในแง่ของคนที่ศึกษาเรื่องเครื่องสำอาง ปูเป้ขอคอมเมนต์เพิ่มเติมว่า SK-II ยังวนเวียนอยู่กับ Actives ตัวเก่า ๆ ที่หาได้ในผลิตภัณฑ์ตัวอื่นในไลน์เดียวกัน แค่เพิ่มสารสกัดขึ้นมาสักตัว เปลี่ยนเนื้อสัมผัสและรูปแบบการใช้ หรือไม่ก็ใช้ส่วนผสมตัวเดิมแต่เข้มข้นขึ้น ก็เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาขายได้แล้ว (คือในฐานะของแฟน SK-II เราก็ยังคงอุดหนุนต่อไป เพียงแค่รู้สึกว่าเราอยากได้อะไรที่ใหม่ถอดด้ามจนเราร้องว้าวบ้าง...) ก็ถือว่านี่เป็นข้อคิดเห็นจากแฟนผลิตภัณฑ์ละกันนะครับ

สำหรับคำถาม ว่า "จะแพ้มั้ย" "ใช้แล้วอุดตันรึเปล่า?" เป็นคำตอบที่ปูเป้บอกไม่ได้ครับ อาการแพ้เป็นสิ่งที่แตกต่างกันไปในทุก ๆ คน สำหรับการอุดตันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลผิวโดยรวมของแต่ละคนเอง นอกจากนี้คนเรายังไวต่อการอุดตันของสารแต่ละตัวไม่เหมือนกันด้วย ดังนั้นก่อนจะซื้อผลิตภัณฑ์ใด ๆ ก็ตาม ควรทดสอบและทดลองใช้ก่อนทุกครั้ง

ข้อดี

- สารไวท์เทนหลักที่ใช้ ช่วยลดจุดด่างดำ และลดการอักเสบได้จริง
- ปราศจากสารก่อการระคายเคืองเช่นสี น้ำหอม ไม่มีแอลกอฮอล์ชนิดระเหยไวด้วย
- บรรจุภัณฑ์สามารถเก็บรักษาความสดและความสะอาดของผลิตภัณฑ์ได้ดี
- เหมาะกับทุกสภาพผิว

Just Arrived